U-Dom Student Services

แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ ให้คำปรึกษาเรื่องวีซ่า จองตั๋วเครื่องบิน จัดหาที่พัก

New Zealand

sumnerbeach-nz

ระบบการศึกษาในประเทศนิวซีแลนด์

ภูมิประเทศและที่ตั้ง

ประเทศนิวซีแลนด์ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของเส้นศูนย์สูตร โอบล้อมด้วยมหาสมุทรแปซิฟิกทางด้านตะวันออก และทะเลทัสมันด้านตะวันตก ลักษณะประเทศเป็นหมู่เกาะ ประกอบด้วย เกาะใหญ่ 2 เกาะ และเกาะเล็กเกาะน้อยอีกจำนวนหนึ่ง เกาะที่เรารู้จักกันดีคือ เกาะเหนือ (North Island) เกาะใต้ (South Island) และเกาะเล็กตั้งอยู่ปลายสุดของเกาะใต้ชื่อ เกาะสจ๊วต (Stewart Island) ถ้ามองดูแผนที่จะเห็นว่า นิวซีแลนด์อยู่ใกล้กับประเทศออสเตรเลีย ลักษณะเกาะมีรูปร่างยาว ประกอบไปด้วยชายหาดมากมาย และทะเลเล็กๆ ที่เรียกว่า ฟยอร์ด (Fjord) บางส่วนเป็นที่ราบอุดมสมบูรณ์ ใช้เพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ มีบ่อน้ำร้อน ภูเขาไฟที่ดับแล้วและยังไม่ดับ บ่อโคลนเดือด บริเวณเทือกเขาสูง มีหิมะขาวปกคลุม พื้นที่ของประเทศนิวซีแลนด์โดยรวมประมาณ 268,105 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเทียบเท่าขนาดของประเทศอังกฤษหรือญี่ปุ่น มีเมืองหลวงชื่อ เวลลิงตัน

ประชากร

ชาวนิวซีแลนด์เป็นชนชาติที่โปรดปรานการเล่นกีฬาทั้งกลางแจ้งและในร่ม กีฬาที่เป็นที่นิยมคือ รักบี้ ชาวนิวซีแลนด์เป็นคนรักธรรมชาติ และตื่นตัวในเรื่องสภาพแวดล้อม ถึงกับประกาศให้ประเทศนิวซีแลนด์เป็น เขตปลอดนิวเคลียร์ ประเทศแรกในโลก ประเทศนิวซีแลนด์มีประชากร 3.6 ล้านคน 74% สืบเชื้อสายมาจากชาวยุโรป เช่น อังกฤษ สก๊อตแลนด์ ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ 15% เป็น ชาวเผ่าเมารี 5% เป็นชาวโพลินีเซียนจากเกาะต่างๆ 4% เป็น ชนเชื้อสายจีน และ 1% เป็นชนเชื้อสายอินเดีย ที่เหลือเป็นชนชาติอื่น ในช่วงที่รัฐบาลสนับสนุนให้ผู้มีความรู้ความสามารถอพยพจากประเทศต่างๆ เข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศ นิวซีแลนด์ได้ ปรากฏว่า ชาวเอเชียและโพลินีเซียนย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่มากกว่าชนชาติอื่น นิวซีแลนด์จึงเป็นสังคมที่ประกอบไปด้วยหลายชาติหลายภาษา


รัฐและเมืองสำคัญ

เกาะเหนือ

โอ๊คแลนด์ (Auckland)  เป็นเมืองใหญ่และกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีประชากรประมาณ 1 ล้านคน เมืองนี้เป็นศูนย์กลางธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ เป็นเมืองท่าเรือที่สำคัญ และเป็นเมืองแห่งการเล่นเรือใบ

แฮมิลตัน (Hamilton)  เป็นเมืองที่แม่น้ำไวกาโต้ ซึ่งเป็นแม่น้ำยาวที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ไหลผ่าน และเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยไวกาโต้ (The University of Waikato)

เวลลิงตัน (Wellington)  เป็นเมืองหลวงของนิวซีแลนด์ เป็นเมืองท่าที่เชื่อมระหว่างเกาะเหนือและเกาะใต้ เมืองหลวงนี้มีสมญานามว่า Windy City เพราะมีกระแสลมแรงจากช่องแคบพัดผ่าน

เกาะใต้

ไคร้สท์เชิร์ช (Christchurch) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของเกาะใต้ เป็นเมืองอุทยานแบบอังกฤษ มีสวนดอกไม้สวยงาม มีประชากรอาศัยอยู่ราว 3 แสนคน

ดะนีดิน (Dunedin)  หรือสก๊อตแลนด์แห่งนิวซีแลนด์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะใต้ เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย ที่เก่าแก่ที่สุดของนิวซีแลนด์ คือ มหาวิทยาลัยโอตาโก้ (University of Otago)

การศึกษา นิวซีแลนด์เป็นแหล่งการศึกษาที่มีคุณภาพ และเป็นที่ยอมรับในระดับแนวหน้าประเทศหนึ่งของโลก มีสภาพที่เหมาะสมต่อการเรียนการสอน กระตุ้นให้นักศึกษารู้จักคิด มีเหตุมีผล รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ชาวนิวซีแลนด์ยินดีต้อนรับนักศึกษาจากต่างชาติ และเปิดรับนักเรียนนักศึกษาในทุกระดับตั้งแต่ ระดับมัธยมศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษา โพลีเทคนิค วิทยาลัยครู มหาวิทยาลัย และสถาบันสอนภาษาเอกชน มีหลักสูตรสาขาวิชาให้เลือกมากมาย

ระดับมัธยมศึกษา

มีโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในนิวซีแลนด์ประมาณ 400 แห่ง ทั้งโรงเรียนของรัฐบาล กึ่งรัฐบาลและเอกชน โรงเรียนแต่ละแห่ง สามารถจัดหลักสูตรการเรียนการสอนเอง แต่ต้องได้รับ การรับรองคุณภาพจาก New Zealand Qualification Authority (NZQA) หลักสูตรและมาตรฐานการศึกษาจึงคล้ายคลึงกัน และมีจุดประสงค์เดียวกันคือ เตรียมความพร้อมให้นักเรียน เพื่อสอบให้ได้ประกาศนียบัตร ระดับมัธยมศึกษาที่รัฐบาลกำหนด นักเรียนทุกคนเมื่อจบระดับ Year 11 (ม. 5) จะต้องสอบไล่ข้อสอบกลางของประเทศเพื่อรับประกาศนียบัตร เรียกว่า NCEA Certificate Level 1 และเมื่อเรียนจบ Year 12 (ม. 6) ต้องสอบข้อสอบที่โรงเรียนเป็นผู้จัดสอบเพื่อรับ NCEA Certificate Level 2 ดังนั้นการเลือกโรงเรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญ

โรงเรียนมัธยมส่วนใหญ่จะรับนักเรียนต่างชาติเข้าเรียนใน Year 9 (ม.3 อายุ 13 ปี) บางโรงเรียนรับตั้งแต่ Year 7 (ม.1) นักเรียนระดับ Year 9-10 ถือเป็นชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น นักเรียนจะเรียนวิชาบังคับพื้นฐาน อาทิ ภาษาอังกฤษ สังคม- ศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สุขศึกษา พลศึกษา ดนตรี ศิลปะ ส่วนวิชาเลือกอาจจะมีคหกรรมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ นักเรียนระดับ Year 11-12 ถือเป็นชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จะมีวิชาเลือกตามความถนัดมากขึ้น และมีวิชาบังคับน้อยลง วิชาบังคับคือ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์

การจัดสอบ NCEA Certificate ทั้งสองระดับ ซึ่งจัดสอบโดยกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับนักเรียนที่ต้องการวุฒิมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 (ม.6) สามารถใช้ NCEA Certificate  มาเทียบวุฒิม.6 ได้   หากนักเรียนเรียนต่อชั้น Year 13 เพื่อสอบ NCEA Certificate  Level 13 และใช้ผลการสอบสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์  นักเรียนต่างชาติก็สามารถเข้าสอบได้

นักเรียนใน Year 11-12 -13 ควรเลือกวิชาที่จะเป็นพื้นฐานของ การเรียนในระดับปริญญาตรีที่ตนสนใจ เช่น สนใจเรียนปริญญาตรีด้านธุรกิจ ก็ควรเลือกเรียนวิชาคณิตศาสตร์ สถิติ การบัญชี เศรษฐศาสตร์ เป็นต้น ส่วนนักเรียนที่จะเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ก็ควรเลือก เรียนวิชา เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา เป็นต้น

การสมัครเรียน สมัครเข้าเรียนต่อจากชั้นสูงสุดที่จบจากประเทศไทยได้เลย และสามารถสมัครเข้าเรียนได้ทุกเทอม นักเรียนที่ต้องการเลื่อนชั้นต้องเข้าเรียนต้นเทอม 2 ทางโรงเรียนจะพิจารณารับนักเรียนเข้าเรียนจากผลการเรียน อายุ และพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ แต่การรับนักเรียนขึ้นอยู่กับ การตัดสินใจของแต่ละโรงเรียน

ภาคการศึกษา

ภาคเรียนแบ่งเป็น 4 เทอม คือ ระหว่างเทอมจะปิดให้นักเรียน พัก 2 สัปดาห์ โรงเรียนมัธยมถูกกำหนดให้มีการสอนไม่น้อยกว่า 190 วันต่อปีการศึกษา

–  เทอม 1: กุมภาพันธ์ – เมษายน
–  เทอม 2: เมษายน – มิถุนายน
–  เทอม 3: กรกฎาคม – กันยายน
–  เทอม 4: ตุลาคม – ธันวาคม

สถาบันโพลีเทคนิค (Polytechnic)

คือ สถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเปิด ให้การศึกษาอบรมสายวิชาชีพ เน้นด้านอุตสาหกรรมธุรกิจและการพาณิชย์ มีสาขาวิชาให้เลือกมากถึง 150 สาขามีหลักสูตร ตั้งแต่ประกาศนียบัตร อนุปริญญา จนถึงปริญญาตรี และสามารถ โอนหน่วยกิตเพื่อเรียนต่อระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยได้ โพลีเทคนิคทั้งหมดมี 25 แห่ง กระจายอยู่ 18 แห่งในเกาะเหนือ และ 7 แห่งในเกาะใต้ นอกจากนี้โพลีเทคนิคยังมีการ อบรมหลักสูตรสั้นๆ (Short Courses) และหลักสูตรสอน ภาษาอังกฤษอีกด้วย

คุณสมบัติของผู้สมัครจากประเทศไทย

–  อายุ 18 ปีขึ้นไป
–  สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 GPA 2-2.5
–  สอบ TOEFL ได้คะแนนอย่างต่ำ 500 หรือ IELTS 5.0

ภาคการศึกษา เปิดสอนเดือนกุมภาพันธ์-ธันวาคม โดยมีวันหยุดในเดือนพฤษภาคมและสิงหาคม ส่วนใหญ่เปิดรับนักศึกษาใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์และ กรกฎาคม

มหาวิทยาลัย (University)

มหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์มีด้วยกันทั้งหมด 8 มหาวิทยาลัย และเป็นของรัฐบาลทั้งหมด มหาวิทยาลัยเหล่านี้กระจายอยู่ตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศ โดยอยู่ที่เกาะเหนือ 5 มหาวิทยาลัย อันได้แก่

–  University of Auckland อยู่ที่เมือง Auckland
–  Massey University อยู่ที่เมือง Palmerston North
–  Victoria University of Wellington อยู่ที่เมือง Wellington
–  University of Waikato อยู่ที่เมือง Hamilton
–  Auckland University of Technology อยู่ที่เมือง Auckland เดิมชื่อ AIT (Auckland Institute of Technology)

เกาะใต้มี 3 มหาวิทยาลัย คือ

–  University of Canterbury อยู่ที่เมือง Christchurch
–  Lincoln University อยู่ที่เมือง Christchurch
–  University of Otago อยู่ที่เมือง Dunedin

มหาวิทยาลัยเหล่านี้มีหลักสูตรตั้งแต่ระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก บางมหาวิทยาลัยมีหลักสูตรประกาศนียบัตรและอนุปริญญา ด้วย

คุณสมบัติของผู้สมัครจากประเทศไทย

ระดับปริญญาตรี

นักศึกษาจบชั้นปีที่ 1 จากมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรอง จากทางมหาวิทยาลัยของประเทศไทย สามารถสมัครเข้าเรียน ต่อในระดับปริญญาตรี (แต่ถ้านักศึกษามีวุฒิจบชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 จะต้องเข้าเรียนหลักสูตร Foundation Studies Programme ก่อน หรือมิฉะนั้นก็เข้าเรียนต่อในโรงเรียนมัธยมศึกษา ใน Year 13 หรือเลือกเรียนหลักสูตรอนุปริญญาในวิทยาลัย อาชีวศึกษา 2 ปี เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.5 แล้วจึงสมัครเรียนต่อ ปริญญาตรี) คะแนน TOEFL อย่างต่ำ 550 หรือ IELTS 5.5

ระดับปริญญาโท/เอก

นักศึกษาจะต้องสำเร็จปริญญาตรี/โท  มีคะแนน TOEFL 600 หรือ IELTS 6.0-6.5  บางสาขาวิชาจะต้องมีประสบการณ์การทำงานด้วย  มีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 และมีเอกสารชี้แจงวิทยานิพนธ์ พร้อมประวัติส่วนตัว

ภาคการศึกษา วันหยุดภาคฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนถึงปลาย เดือนกุมภาพันธ์ และมีวันหยุดประมาณ 2-3 สัปดาห์ ในระหว่างเทอม หรือ ระหว่างภาค โดยทั่วไปมหาวิทยาลัยเปิดรับนักศึกษาใหม่ ช่วงต้นปีการศึกษาในเดือนมีนาคม มีบางมหาวิทยาลัยที่เปิดรับนักศึกษาใหม่กลางปีคือ ในเดือนกรกฎาคม แต่รับเฉพาะบางสาขาเท่านั้น

–  ระบบเทอมมี 3 เทอม มีนาคม – พฤษภาคม มิถุนายน – สิงหาคม กันยายน – พฤศจิกายน
–  ระบบภาคเรียน (Semester) มี 2 ภาค คือ มีนาคม – มิถุนายน กรกฎาคม – พฤศจิกายน

เอกสารที่ต้องใช้ในการสมัครเรียน

ระดับมัธยมศึกษา

–  ใบรับรองผลการเรียน หรือใบรายงานผลการศึกษาชั้น สูงสุดที่มีจดหมายรับรองจากสถาบันที่เรียนอยู่หรือที่เรียนจบมา

ระดับอุดมศึกษา

–  ใบรับรองผลการเรียน (Transcript)
–  ใบรับรองผลการสอบ TOEFL หรือ IELTS
–  จดหมายรับรองจากสถาบันที่ศึกษาอยู่หรือที่จบมาหรือ จากสถานที่ที่ทำงานอยู่

ระดับปริญญาเอก

–  ใบรับรองผลการเรียน (Transcript)
–  คำแปลสูติบัตรหรือเทียบเท่า (บางมหาวิทยาลัย)
–  จดหมายแนะนำจากอาจารย์
–  จดหมายเรียงความประวัติส่วนตัวและเหตุผลที่ต้องการ ศึกษา
–  ใบรับรองผลการสอบ TOEFL หรือ IELTS

เรียนภาษาอังกฤษ

–  ไม่จำเป็นต้องแสดงวุฒิการศึกษา

ใส่ความเห็น